"เมืองโบราณเวียงกาหลง มีองค์พระธาตุแม่เจดีย์ น้ำพุร้อนดี ทุ่งเทวีและโป่งน้ำร้อน"
อำเภอเวียงป่าเป้า เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย
เป็นอำเภอที่อยู่ทางใต้สุดของจังหวัดเชียงราย
มีพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งรองจากอำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอแม่สรวย
มีลักษณะเป็นที่ราบสลับกับเทือกเขาตลอดทั้งแนว
มีเทือกเขาที่สูงที่สุดของจังหวัด และยังเป็นอันดับ 5-6 ของประเทศ
และยังเป็นอำเภอเดียวของจังหวัดที่มีต้นกำเนิดแม่น้ำไหลย้อนกลับขึ้นไปและไป
รวมกับแม่กก มีประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่หลายเชื้อชาติ เช่น อาข่า ม้ง
ไตลื้อ ขมุ มูเซอ แม้ว เย้า อพยพมาจากสิบสองปันนา
ทางตอนใต้ของประเทศจีนปัจจุบันบางส่วน และอพยพมาจากจังหวัดเชียงใหม่
ประวัติศาสตร์
อำเภอเวียงป่าเป้า เป็นเมืองเก่าแก่ อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี
เจ้าอินทวิชยานนท์ ผู้ครองเมืองเชียงใหม่
เป็นผู้ก่อตั้งโดยมอบหมายให้พระยาไชยวงค์
นำราษฎรชาวเชียงใหม่ขึ้นมาถางป่าอ้อหญ้าไซ ซึ่งอยู่ห่างตัวอำเภอไปทางใต้
แล้วสร้างเมืองชื่อว่า “เมืองเฟยไฮ” และพระยาไชยวงค์( ต้นตระกูล
"บุญชัยวงศ์" ในปัจจุบัน )เป็นเจ้าผู้ครองเมือง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2430
พระยาไชวงค์เห็นว่าเมืองเฟยไฮเป็นที่ราบลุ่ม
พอเข้าฤดูฝนน้ำจะท่วมประจำทุกปี
จึงให้ราษฎรขึ้นมาถางป่าไม้ที่มีไม้เป้า(เป้าน้อย
ซึ่งเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง) แล้วตั้งขึ้นเป็นเมืองชั่วคราว ในปี พ.ศ. 2440
พระยาไชยวงค์ได้ถึงแก่กรรม พระยาเทพณรงค์ (ต้นตระกูล”ทาอุปรงค์”ในปัจจุบัน )
ผู้เป็นบุตรเขย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าผู้ครองเมืองป่าเป้าสืบแทน
และได้ใช้อิฐก่อเป็นกำแพงเมือง (ปัจจุบันจะเห็นร่องรอยบริเวณวัดป่าม่วง -
วัดศรีคำเวียง) และตั้งชื่อเมืองว่า”เวียงป่าเป้า” ต่อมาพระยาเทพณรงค์
ได้ถึงแก่กรรม พระยาขันธเสมาบดี ( ต้นตระกูล ”ธนะชัยขันธ์” ในปัจจุบัน )
ซึ่งเป็นน้องเขยได้รับการแต่งตั้งให้ครองเมืองสืบแทน ประมาณปี พ.ศ 2448
พวกเงี้ยว (ไทยใหญ่) ได้ก่อจารจลขึ้นที่ตัวเมืองเชียงรายและเชียงใหม่
ได้ขึ้นอยู่ในเขตปกครองของอำเภอแม่พริก (บ้านแม่พริก
อำเภอแม่สรวยในปัจจุบัน และต่อมาอำเภอแม่พริกได้ย้ายมาอยู่ริมน้ำแม่สรวย
และขนานนามใหม่ว่าอำเภอแม่สรวย
)อำเภอเวียงป่าเป้าเป็นอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ทิศใต้ของจังหวัดเชียงราย
จากทั้งหมด 16 อำเภอ 2 กิ่ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 90 กิโลเมตร
การคมนาคมสะดวก ด้วยถนนลาดยาง ทางหลวงหมายเลข 118 ระยะทาง 180 กิโลเมตร
จากจังหวัดเชียงราย – จังหวัดเชียงใหม่ และทางหลวงหมายเลข 1035
จากเขตเทศบาลแม่ขะจานไปยังอำเภอวังเหนือ ถึงจังหวัดลำปาง ยาวประมาณ 120 กม.
และทางหลวงหมายเลข 1150 จากตำบลบ้านโป่งเทวีไปยังอำเภอพร้าว
จังหวัดเชียงใหม่ ยาวประมาณ 53
กม.ลักษณะที่ตั้งของอำเภอเป็นที่ราบระหว่างภูเขา
มีแม่น้ำไหลผ่านจากภูเขาผีปันน้ำ( ดอยนางแก้ว ) เรียกแม่น้ำลาว
ไหลลงสู่แม่น้ำกก โดยผ่านอำเภอแม่สรวย อำเภอแม่ลาว อำเภอเมือง
และอำเภอเวียงชัย ตามแผนที่สากลจะอยู่ประมาณ ละติจูดที่ 15 – 19 องศาเหนือ
ลองติจูดที่ 99 องศาตะวันออก สูงกว่าระดับน้ำทะเล 547 เมตร
พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,217 ตร.กม. หรือ 765,625 ไร่
เป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 205,353 ไร่พื้นที่ป่าไม้ 560,272 ไร่
อำเภอเวียงป่าเป้า
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและมีภูเขาล้อมรอบ
มีพื้นที่ราบเป็นรูปแอ่งกระทะพอประมาณ มีความกว้าง ประมาณ 27 กม.ความยาว 41
กม.มีภูเขาผีปันน้ำอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศใต้ เป็นต้นกำหนดของแม่น้ำลาว,
แม่น้ำแม่ฉางข้าว, แม่น้ำแม่ปูน, แม่น้ำแม่โถและแม่น้ำแม่เจดีย์
พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนแจ
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้ด้านทิศตะวันตก และป่าสงวนแห่งชาติแม่ปูนน้อย
อยู่ทางทิศตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 560,271 ไร่ แหล่งแร่ธาตุต่างๆ เช่น
แร่ดีบุก (cassiterite) แร่ชีไลต์ (scheelite) บริเวณดอยหมอก
เป็นแหล่งแร่ซีไลท์ที่มีปริมาณสำรองมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 30,000
เมตริกตัน แต่บริษัทผู้สัมปทานขาด งบประมาณในการเจาะขุด ส่วนแร่ดินขาว
(kaolinite) พบที่ตำบลบ้านโป่งเทวี ปัจจุบันได้มีบริษัท
เบญจอุตสาหกรรมมาตั้งโรงงานซึ่งทำเป็นเมืองหาบ ดินขาวใช้ทำอิฐก่อสร้าง
เครื่องปั้นดินเผา, กระเบื้องเคลือบ
และได้ส่งเป็นวัตถุดิบไปยังโรงงานกระเบื้องเซรามิก ที่อำเภอเมือง
จังหวัดลำปาง
อำเภอเวียงป่าเป้าได้รับการตั้งเป็นเขตการปกครองครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.
2430 ในปี พ.ศ. 2475 ขุนบวรอุทัยวัช ซึ่งดำรงตำแหน่ง
นายอำเภอเวียงป่าเป้าได้ทำการก่อสร้าง พอสร้างได้เพียงครึ่งหนึ่ง
ขุนบวรอุทัยธวัชก็ประสบอุบัติเหตุตกม้าถึงแกชีวิต ขุนพิพิธสุขอำนวย
นายอำเภอคนต่อมา ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อ
การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในสมัยขุนสมจิตสมบัติศิริ
ตัวอาคารเป็นลักษณะทรงยุโรปผสมรัตนโกสิน ซึ่งเป็นอาคารตึกก่ออิฐถือปูน
เป็นสถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยากยิ่ง
มีการเสนอให้แยกตำบลแม่เจดีย์ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ และตำบลเวียงกาหลง ออกจากอำเภอเวียงป่าเป้าในปี พ.ศ. 2539 เพื่อตั้งเป็น กิ่งอำเภอแม่ขะจาน
อำเภอเวียงป่าเป้า
เนื่องจากแม่ขะจานไกลจากตัวเมืองเวียงป่าเป้าแต่มีความเจริญและประชากรเริ่ม
หนาแน่นกว่า อย่างไรก็ตาม ชื่อกิ่งอำเภอแม่ขะจานยังปรากฏตามเว็บไซต์ต่าง ๆ
อย่างไม่เป็นทางการอาจสร้างความสับสนกับผู้อ่านได้

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น